ชลิดา กิตติขจร

จากใจพี่…สู่ใจน้อง ที่จะทำให้คุณได้รู้ถึงประสบการณ์ ความรู้สึกของรุ่นพี่ ที่อยากจะฝากถึงรุ่นน้องที่กำลังศึกษาอยู่ และกำลังมองหาที่เรียน พบกับ คุณชลิดา กิตติขจร (เก๋) จบจากสาขาวิชาการบัญชี และเค้าคนนี้มีอะไรมาฝากน้องๆ ไปชมกันเลยค่ะ

     สวัสดีค่ะ ชื่อชลิดา กิตติขจรค่ะ ชื่อเล่น เก๋ค่ะ จบสถาบันราชภัฏกำแพงเพชร เพราะว่าสมัยก่อนมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรยังเป็นสถาบันอยู่นั่นเองค่ะ พี่จบบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี จบตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541 ค่ะ ปัจจุบันพี่รับราชการ ตำแหน่งนักบริหารงานคลัง หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง สังกัดเทศบาลตำบลนครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชรค่ะ

ประสบการณ์ในการทำงาน

     ประสบการณ์ในการทำงานหลังจากที่พี่จบ มันเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในสมัยนั่นเค้าเรียกกันว่าวิกฤตฟองสบู่ ก็คือมีคนถูกเลิกจ้างงานมากมาย เพราะมันเป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในปี 2541 ในช่วงนั้นมีคนจบจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ มากมาย และยังต้องมาเจอภาวะเศรษฐกิจอีก ก็คือถ้าเราจบมาทำอะไรได้เราต้องทำ! ให้มันมีเงินเดือน ให้มันสามารถเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้ ซึ่งพี่ก็จะมีพี่ๆ เพื่อนๆ เราจะมี connection คุยกันอยู่ตลอด อะไรที่เราทำได้ในตอนนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกจ้างที่ อบต. สุขาภิบาล ซึ่งตอนนั้นพี่ก็ได้ไปสอบเป็นลูกจ้างของสุขาภิบาลนครชุมค่ะ หรือก็คือเทศบาลในปัจจุบันนี่แหละ เพราะเมื่อก่อนเค้ายังไม่ได้ยกสถานะก็เลยเป็นสุขาภิบาลค่ะ ทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทะเบียนทรัพย์สิน โดยงานที่ทำก็จะเป็นการเดินสำรวจข้อมูลทรัพย์สินของประชาชนที่มีอยู่ในเขตเทศบาล เพื่อใช้ประกอบการจัดเก็บภาษี เงินเดือนที่ได้ตอนนั้น ด้วยวุฒิ ม.3 ได้เดือนละ 4,100 บาท พร้อมหักประกันสังคมด้วยค่ะ  แต่ช่วงนั้นน้ำมันราคาถูก 8 บาทเอง ก็เลยโอเคอยู่ได้ แต่ถ้าให้พี่พูดตรงๆ ต้องบอกว่าเด็กราชภัฏ 99% เลยโอกาสที่จะตกงานน้อย เพราะว่าเด็กราชภัฏนั่นไม่เลือกงานค่ะ คราวนี้พี่ก็ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่อย่างนี้ ประมาณ 7 ปี ตอนนั้นไม่มีอะไรเปิดสอบเลย จนมาปี 2548 ก็มี อบต. พิษณุโลกเปิดสอบรับราชการ เปิดในตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชี เลยคิดว่าคราวนี้แหละ…ถ้าได้! เราจะได้ใช้วุฒิที่เราเรียนมา ซึ่งตอนนั้นพี่ก็สอบไว้ 2 ตำแหน่ง ก็คือ C1 เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 1 และ C3 เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 3กะไว้ว่าถ้าไม่ได้ C3 ก็เอา C1 นี่แหละ เพราะช่วงนั้นมันสามารถสอบได้ 2 ตำแหน่ง ผลปรากฏว่า C1 สอบไม่ติด เลยคิดว่า C3 ไม่ต้องไปดูแหละ เพราะว่า C3 มันยากยิ่งกว่า C1 อีกนะ จนมีเพื่อนโทรมาบอกว่าพี่รู้ตัวไหมว่าพี่สอบติดเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีแล้วนะ เราก็รู้สึกว่าเอาล่ะทีนี้! เลยแจ้งผู้บริหารว่าเราสอบติดแล้ว อาจจะต้องไปอยู่ที่อื่น ผู้บริหารเค้าก็เลยทำเรื่องไปเป็นนักวิชาการคลัง จนพี่ได้มาบรรจุที่เดิมเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ในตำแหน่งนักวิชาการคลัง ทำงานเหมือนเดิมทุกอย่างเพียงแต่ว่าพี่ได้บรรจุแล้ว ใช้วุฒิปริญญาตรี หลังจากที่พี่รับราชการเป็นนักวิชาการคลังพี่ก็ไตร่เต้ามาเรื่อยๆ จนปี 2557 พี่ก็สอบนักบริหารงานเป็นหัวหน้าฝ่าย เพราะตอนนั้นเรามีความมุ่งมั่น ศึกษาเรียนรู้การทำงานต่างๆ จากพี่ๆ จนได้มาเป็นหัวหน้าฝ่าย ซึ่งปัจจุบันก็เป็นนักบริหารงานคลัง หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง สังกัดเทศบาลตำบลนครชุมแห่งนี้แหละค่ะ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

      ผลงานที่โดดเด่น…ด้วยความที่พี่เป็นนักบัญชี จะต้องทำเช็ค หรือเขียนเช็คนี่แหละค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นหน่วยงานที่มีงบประมาณค่อนข้างเยอะ เราก็เลยคิดว่าถ้าเราต้องซื้อเครื่องปริ๊นเช็ค ซึ่งมันก็ปริ๊นเช็คได้อย่างเดียว และมันก็ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ด้วยความที่เป็นหน่วยงานราชการ อย่างที่รู้ๆกันว่ามันหลายขั้นตอน โน้นนี่นั่น! พี่ก็เลยคิกว่าเครื่องปริ๊นเก่าๆ ของเรามันน่าจะทำประโยชน์ได้ พี่ก็เลยคิดใช้ไฟล์แบบจดหมายเวียนนี่แหละ ซึ่งมันก็ประหยัดเวลา แล้วสร้างแหล่งข้อมูล Databases ให้มันอยู่ใน Excel ส่วนตัวแพทเทิร์นที่เราจะปริ๊นให้มันอยู่ใน Word พอพี่บอกว่าพี่ว่าสร้างไฟล์ปริ๊นเช็คขึ้นมา FC ลูกเพจของพี่ก็ให้ทำทุกธนาคารเลย เพราะพี่เป็นคนลายมือไม่สวย พอปริ๊นออกมารูปแบบสวยงาม ก็มีหน่วยงานต่างๆ ขอไปใช้มากมาย ซึ่งพี่คิดว่ามันเป็นอะไรที่สามารถลดขั้นตอนการทำงาน และเราก็สามารถเอาเวลาที่เรามีไปศึกษางานอย่างอื่นได้ ในขณะเดียวกันพี่ก็เป็นแอดมินเพจของหลายๆ ที่ที่สอนเกี่ยวกับงาน สอนเรื่องระบบการทำงาน สอนเกี่ยวกับระบบบัญชีใหม่ๆ ที่มันมีหนังสือทางการอะไรใหม่ๆ เข้ามา ปัจจุบัน Facebook ของพี่เพื่อนเต็มแล้ว แต่ก็มีคนติดตาม Facebook พี่ประมาณ 14,200 กว่าคน มันก็เป็นความภูมิใจเล็กๆ ของเด็กราชภัฏที่สามารถทำอย่างที่มหาวิทยาลัยอื่นทำได้ และตอนนี้เราก็ทำได้ค่ะ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

      ชีวิตในวัยเรียนของพี่ โอ้โห้!! เป็นอะไรที่สุดๆ ค่ะ ถ้าน้องๆ เคยดูหนังเรื่องน้ำใสใจจริง ราชภัฏกำแพงเพชรเป็นแบบนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆ ๆ ถนนลูกรัง โน้นนี่นั่น! แต่มันก็ Happy นะคะ มันมีความสุข แล้วก็พี่จบ ม.6 สายวิทย์-คณิต พี่ไม่มีพื้นฐานบัญชีเลยค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ ไปสอบเป็นสายพยาบาลกันหมด มีพี่คนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่แยกตัวออกมา เพราะพี่อยากเรียนบัญชี ตอนที่พี่เข้าเรียนปี 1 พี่โชคดีหน่อย เพราะมันจะแบ่งออกเป็น 2 ห้องแล้วเรียนรวมกัน มันจะมีทั้งเรียนบัญชี การตลาด บริหารธุรกิจ มันจะเรียนแบบนี้ทุกวิชา จนปี 2 เราค่อยแยกตามความถนัดของแต่ละคน มันก็เกิดการเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบ ตอนนั้นด้วยความที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบัญชีเลย เราก็ได้พูดคุยกับท่านอาจารย์อนุ ก่อนที่จะเริ่มเข้าห้องสมุดเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีเพิ่มเติม ซึ่งสมัยเรียนแรกๆ พี่จะยังไม่นั่งแถวแรก พออาจารย์อนุถามพี่ก็จะนั่งก้มหน้า อย่าได้เงยเชียวนะ ฮ่าๆ ๆ เพราะถ้าเงยหน้าเมื่อไหร่ละก็ยัยชลิดาตอบครูมาสิว่าข้อนี้อะไรเลยแหละ จนเรามีความรู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้ เราต้องตอบคำถามให้ได้ทุกครั้งที่อาจารย์ถาม พอตอบคำถามได้ พี่ไม่นั่งล่ะแถวที่สอง เปลี่ยนมานั่งแถวแรกเลย แล้วก็เริ่มมีการติวให้เพื่อนๆ ซึ่งตอนนั้นเชื่อไหมค่ะว่าคำถามของเพื่อนๆ ถือเป็นการติวอย่างดีเลยค่ะ พอสอบพี่ก็แทบไม่ต้องอ่านหนังสือสอบเลย เพื่อนๆ ของพี่ก็คือสอบผ่านหมด มันเป็นอะไรที่แบบว่าสนุกอ่ะ

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

      ถ้าถามว่าสถานการณ์ Covid-19 มีผลอะไรกับการทำงาน ก็คือ..อย่างที่บอกว่าเราเป็นราชการนะคะ เราไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรกับการทำงานหรอก ส่วนใหญ่ก็จะทำงานตามนโยบายของกรม และดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 แต่ด้วยเรื่องการทำงานในส่วนของงานบัญชี หรืองานการเงินของเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะมีการอบรมเกี่ยวกับบัญชี จะมีฝึกอบรมโน่นนี่นั่น พอมีวิกฤต Covid-19 การจะจัดอบรมนั้นด้วยความที่ระยะห่าง อะไรหลายๆ อย่างมันไม่ได้ มันก็จะเกิดจากการเรียนรู้โดยปฏิบัติตามหนังสือสั่งการอะไรต่างๆ ออกมา เราก็เหมือนต้องเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆ เราต้องมาศึกษาวิธีการแล้วก็ลง Facebook ให้เค้าปฏิบัติตาม ซึ่งมันก็ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะว่าข้อมูลข่าวสารคนส่วนใหญ่ก็ติดตามทาง Facebook กันอยู่แล้ว มันแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเลยค่ะ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

       อยากจะฝากอะไรถึงน้องๆ ก็คือว่า..อยากให้น้องๆ ภูมิใจในสถาบันราชภัฏกำแพงเพชร เพราะเราคือคนของพระราชา เราไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่ามหาวิทยาลัยอื่นเลย เรามีจุดแข็งของเราก็คือ การที่เราไม่เลือกงาน ไม่ว่าจะเกิดภาวะอะไรนั้น ให้เราแข่งขันกับตัวเราเอง ไม่ว่าหนูจะไปสมัครสอบ หนูก็ไม่ต้องไปสนจำนวนคน เพราะทุกคนต้องอ่านหนังสือสอบเท่ากันหมด ถ้าพวกเราอยากรับราชการนะคะ พี่แนะนำว่าอาชีพรับราชการคืออาชีพที่มั่นคง และมีความก้าวหน้าสูง หากเรารู้จักการประหยัดใช้จ่าย เราอยู่ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รวยแบบฟู่ฟ่า แต่เราสามารถทำอาชีพเสริมได้ค่ะ แล้วก็สำหรับน้องๆ ที่จะฝึกงานนะคะ เทศบาลตำบลนครชุมยินดีต้อนรับค่ะ มาติดต่อได้เลย สู้ๆ ค่ะ

แนวคิดในการทำงาน / คติประจำใจ

      แนวคิดในการทำงานของพี่ คือไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่าที่จะเรียนรู้และลงมือทำ หากเราทำแล้วเกิดปัญหาให้ใช้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหามาแก้ปัญหาในอนาคต และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ต้องมีน้ำใจและแบ่งปัน แล้วเราจะได้สิ่งดีๆ ตามมาอีกเยอะเลยค่ะ พี่เชื่อว่าน้องๆ ของพี่ทำได้ สุขจากการแบ่งปันค่ะ

ชลิดา กิตติขจร

หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง